ก็พี่เดินทางถึงไทย 25 ธ.ค. น้อง....5555+
มีเวลาเตรียมตัว แต่งสวย ตั้งหลายวัน อิอิ.....
เราได้คุยทางเอ็มกะน้องๆ แฟนคลับของดูโอ ..แดน-บีม
ถึงคอนเสิร์ทสุดท้ายของพวกเค้า .........
ซึ่งแน่นอน ...คงเป็นคอนเสิร์ทเดียว ที่เรามีโอกาสได้ดู เพราะ.....
เค้าแยกกันอย่างแน่นอนแล้ว....เศร้า....
เฮ้อ...ตั้งแต่เราตามกรี๊ด พี่แจ้ (ดนุพล) เมื่อสมัยมีคอนเสิร์ทใหม่ๆ จนอายุปูนนี้ก็ไม่คิดว่าจะได้
มีความรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว....
แต่...เด็กน้อยที่มีนิคเนม...แดน...ดีทูบี...คนนี้ กลับทำให้สาวใหญ่ เสียงมนต์เสน่ห์ แห่งไอซ์แลนด์
ลุกขึ้นมากระดี้กระด้า...กระชุ่มกระชวย...หลงเสียงนาย...5555+
เอ...แล้วไมอยู่ไกลถึงขั้วโลก แต่กลับรู้จัก และชื่นชม เด็กน้อยคนนี้ได้อ่ะ...งงป่ะ...
แหม...เดี๋ยวนี้โลกไซเบอร์มันเล็กเจ้าค่ะ...แล้วหญิงห้าวคนนี้ก็ทันสมัยซะด้วย
ครั้งแรกที่ได้หลงเสน่ห์หนุ่มผิวเข้มคนนี้ก็เป็นรายการ รักเอย...ตอนออกเทปชุดที่ 2 ของ
......แดน-บีม....
หลังจากนั้น ทุกรายการ ทุกเพลง ทุกๆ คอนเสิร์ท เท่าที่หาได้จะตกมาอยู่ในกำมือของ สาวมั่น..คนนี้
แต่...สิ่งที่ได้รับรู้ต่อๆ มา กลับเป็นความชื่นชมในฐานะของผู้ใหญ่ที่คิดว่าเด็กคนนี้...น่าจะเป็นเยี่ยงอย่าง
แก่เยาวชนได้....
เค้าสามารถผ่านข่าวหนักๆ ผ่านคำสัมภาษณ์ ที่มีแต่ความอยากรู้อยากเห็นของนักข่าว และผ่านข่าวลือ
ในทางเสียหาย .... ได้ด้วยวัยอันน้อยนิด ...แสดงถึงความหนักแน่น....ไม่ยอมแพ้...และ.....
พร้อมที่จะลุยไปหาฝันที่เค้าตั้งปณิธานไว้ อย่างดีเยี่ยม
และจากบทสัมภาษณ์ที่ได้อ่านผ่านสายตา...ต้องยอมรับสิ่งหนึ่ง...คือ...ครอบครัวของเด็กน้อยคนนี้...
ช่างเป็นครอบครัวที่ประคองสมาชิกได้อย่างสุดยอด...ขอคารวะ 1 จอก....5555+
ไรเนี่ย....ตกลงที่เขียนมาเนี่ย....มันเริ่มได้อำลา กันหรือยังห๊าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอ้า....เริ่มดีกว่า หลังจากนัดหมายว่าเราจะออกเดินทางแต่เช้าตรู่ของวันที่ 29
สู่...... ขอนแก่น ....ดินแดนศิวิไลย์ในแดนอิสาน...อิอิ
เรา 11 ชีวิต ก็มุ่งมั่นพิชิต...หอประชุมใหญ่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น...
ที่เค้าว่ากันว่าใหญ่ที่สุดของภาคอิสาน...แหม...ขนาดอำลายังไว้ลายเลย...555+
การเดินทางนึกว่าสบาย....ที่ไหนได้นั่งรถตู้ไปขอนแก่น ใช้เวลาเท่ากับเดินทางโดย
สายการบินไทย จากสุวรรณภูมิ สู่ เมืองโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก
ครับท่าน..... 11 ชั่วโมงกว่าๆ ในรถตู้ แวะหย่อนขาบ้างเป็นระยะๆ
โธ่....ก็เป็นช่วงเทศกาลเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาของชาวอิสานไงครับ....
รถราติดขัดตั้งแต่ยังไม่เข้าสระบุรีเลย....เศร้า....
แต่....ในที่สุด 5 โมงเย็นเราก็สามารถพิชิต สถานที่จัดคอนเสิร์ทได้เรียบร้อยมหาลัย....
หลังจากนั่งเล่น นอนเล่น ถ่ายรูปเล่น คุยเล่น....ก็เป็นเรื่องจริง....
เค้าเปิดประตูให้เข้าแล้ว 5555+ ไชโย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เราทั้ง 11 ชีวิต ได้นั่งแถวหลังสุดของบัตรที่แพงที่สุด ซึ่งเราได้สั่งสาย..ของเรา
ให้จัดการให้ตั้งแต่ยังไม่เหยียบแผ่นดินไทยเลย...เจ๋งจริงป่ะ...อิอิ
คอนเสิร์ทสนุกสนานมากมาย ไม่ขอบรรยายแล้วกัน
เพราะถ้าบรรยายไป ... ผู้อ่าน...ก็อาจเกิดอาการ ..แพ้คอมฯ ได้ 55+
แต่ที่จะบอกคือ เด็กน้อยของเราช่างน่ารักเจงๆ ส่วนหนุ่มน้อยโอโม่ .....
ก็น่ารักไม่แพ้กัน โธ่...ก็เล่นยกกองกำลังมาเชียร์เกือบหมดบ้าน 5555+
ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์หอบสังขาร นั่งรถตู้ยาวนานถึง 11 ชั่วโมง....
หลังจากอำลา คู่หู - คู่ฮา เรียบร้อยแล้ว เราก็ไปนั่งกินข้าว..เคล้าเสียงเพลง
อิจฉาละซิ ....แล้วความบันเทิงต่อไปที่เราได้เจอคือ....
การนั่งรถไปสู่ที่พักที่ได้จับจองไว้อีกเช่นกัน
......เขื่อนอุบลรัตน์.....โอ...แม่เจ้า...ไหนเค้าว่าแป๊ปเดียว....
เราถามคนนำทางไม่ต่ำกว่า 7 ครั้ง คำตอบที่ได้รับเป็นคำเดียวกัน
เหมือนอัดเทป.........อีกแป๊ปเดียวเพ่....โห...ตาข้าพเจ้าจะปิดแว๊ว....หุหุ
หลังจากเข้าสถานพักฟื้น...เอ้ย...สถานพำนัก...
นกกระจอกก็เริ่มหารังนอน....5555+ คงนึกออกนะ
ยามเย็นที่นกกลับจากหากินเพื่อบินสู่รังมันมีเสียงเช่นไร...
เอ....หรือเด็กรุ่นใหม่ไม่เคยเห็นหว่า....เราแก่เกินไปรึป่าวเนี่ย....
โอ้ววววว ...พระเจ้าจอร์จ...มันยอดมาก
หลังจากตื่นขึ้นมาพบว่า แหล่งพำนักของเรามันช่างสวยวิเศษอะไรเช่นนี้
เราลืมไปเลยว่า เมื่อคืนเราบ่นอะไรไว้บ้าง 555+
สำเร็จจากอาหารเช้า...ก็เป็นเวลา....บันทึกความทรงจำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้....
แล้วเราก็เดินทางไปสันเขื่อน....ต่อจากนั้น....เราจะมุ่งตรงไปเที่ยวหินช้างสี
ก่อนที่จะเหวี่ยงตัวเองขึ้นรถตู้...เพื่อมุ่งสู่พระนคร
หินช้างสี....ชื่อนี้...ใครจะรู้บ้างว่ามันคืออะไร....
เรามาพิสูจน์กัน.....
เราเดินทางมาถึงที่ตั้งของหินช้างสีด้วยเวลาที่ไม่นานนัก
มันคือเขาลูกย่อมๆ ลูกนึง ไกด์ท้องถิ่น ชี้แจงว่าต้องเดินขึ้นเขาไปอีกแป๊ป..อีกแล้ว..55
หลังจากตะเกียก ตะกาย ด้วยความอยากรู้ อยากเห็น เหมือนนักข่าวสมัยนี้...
เราก็มาเจอชะโงกหินก้อนใหญ่เป็นสถานที่ซึ่งไกด์จำเป็นแจ้งว่า....นี่คือ..หินช้างสี
เฮ้ย...แล้วสีอยู่ตรงไหนอ่ะ ยังไม่เห็นสีอะไรเลย นอกจากสีของก้อนหิน
ว่าแล้วไกด์ที่น่ารักก็บอกว่า...อ่านเอาพี่....ไหน..มีที่ให้อ่านด้วย
โอว....อินเตอร์เจงๆ ...ไม่น่าเชื่อว่านี่คือภาคอิสาน
หินช้างสี คือ ชะโงกหินที่บรรดาช้างใช้เป็นที่ถูตัวให้โคลนหลุดจากตัว
หรือสีกับหินเพื่อลดอาการคัน...อะป่าว (เราคิดเองไง)
โธ่....เราหลงนึกว่าเป็นภาพเขียนสีโบราณ ...
แต่ขอบอก...สถานที่นี้แค่ใช้ชื่อเป็นตัวขาย แต่ไหนๆ ขึ้นมาสูงแล้ว เราก็จะได้วิวที่สวยงาม
ในมุมสูง....เจ้าค่ะ...5555+
ถ้าบอกว่าสถานที่นี้คือจุดชมวิว โดยที่ไม่ใช่ทางผ่าน...รับรอง...
เงียบครับ..ใครจะมา.....
เห็นป่ะ...เดี๋ยวนี้การท่องเที่ยวเค้าฉลาดจิงๆ....55555+
ในที่สุด...ทุกอย่าง...ทบทวน...ทุกอย่าง...ที่เกิดขึ้นใน 2 วันนี้
....เป็นความประทับใจ.....ที่ยากจะหาได้ง่ายๆ.....
ท่านรวยร้อยล้าน ท่านอาจไปเที่ยวได้ไม่ประทับใจเท่าทริปนี้ก็ได้...
เพราะ...การเดินทางกับคนที่รู้ใจ..กับคนที่มองทุกอย่างสวยงาม...
กับคนที่มองทุกอย่างในแง่ดี... ท่านคิดว่าโอกาสแบบนี้วิ่งมาหาท่านง่ายหรือไม่
ขอบคุณผู้ร่วมชะตากรรมแสนสนุกในครั้งนี้
ลูกชายที่น่ารักทั้ง 2 คน
น้องตุ๊กตา น้องเตย น้องเล็กจ้า น้องหนึ่ง แอดมินที่น่ารักของเวป แดนโอลลี่
น้องแนน น้องหนิง น้องเกด ผู้ช่วยแอดมินเวปข้างบน
และ คุณแจ๋น....ผู้อยากเข้ามาร่วมชะตากรรมจากกาญจนบุรี
ทั้งหมดเชื่อไหมว่า นอกจากลูกชายที่น่ารัก 2 คน เราเพิ่งได้รู้จักเมื่อได้เดินทางมาไทยครั้งนี้...
และนี่คือ............ความประทับใจ
3 comments:
ทริปนี้ประทับใจสุดๆ เลยเนอะ อิอิ
ที่สำคัญเราเดินทางแป๊บเดียวเองเนอะ 555
ดีใจด้วยนะพี่ ในที่สุดฝันพี่ก็เป็นจริง ได้แนบชิดถ่ายรูปกับน้องนักร้องสุดห่ล่อขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ กับมาคราวนี้ เก็บฝันมาด้วยเปล่าพี่ หวังว่าฝันพี่คงไม่ได้ค้างอยุ่ที่เมืองไทยนะ เอาฝันมาเพิ่มอุณหภูมิทางใจแล้วทำให้พี่อุ่นกายได้ในเมืองนี้ที่ตอนนี้หิมะคลอบคลุมอยุ่ทุกพื้นที่
คิดถึงทริปนั้นจังเลย หนุกหนานน่าดู๊ ดีใจจังที่ทำให้พี่ชิดติดใจน้องแดนน้อยได้ ตอนนี้เหลือแค่ตาเด็ดเท่านั้นที่ยังไม่ได้เข้าใกล้ 555 สักวันตุ๊กตาจะทำให้ฝันพี่ชิดเป็นจริงให้ได้นะคะ อิอิ
Post a Comment