9.12.07

เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พ่อหลวงของชาวไทย


หลังจากที่ได้เตรียมงานเป็นระยะเวลาพอสมควร....

เราก็ได้ร่วมจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา แด่องค์พระเจ้าอยู่หัว

.....ในนามของ สมาคมไทย-ไอซ์แลนด์

เราได้รับมอบหมายให้จัดการเรื่องสถานที่ โดยมีทีมงานหลายชีวิต

ซึ่งงานที่มีคุณค่าชิ้นนึง คือการได้จัดบอร์ดนิทรรศการเทิดพระเกียรติในหลวงของเรา

และทำให้เราได้พึ่งพาอาศัยน้องเตย แอดมินแห่งเวปแดนโอลลี่ ......

ช่วยจัดหาภาพของพระองค์ท่านให้เราได้พริ้นท์มาจัดทำบอร์ด

นอกจากนี้ก็มีคุณน้อง หรือนายภาสวีร์ .....

อนาคตดอกเตอร์ทางเภสัชชาวไทยที่มาเรียนอยู่ที่นี่

ภัทราน้องที่เก่งทางออกแบบ ช่วยออกแบบบอร์ดและจัดทำ

สาลิกา และคุณต้อย ที่วิ่งเต้นจัดหาอุปกรณ์ประกอบฉากทั้งหลายแหล่ รวมทั้งจัดเสบียงให้เหล่าขุนพลทั้งหลาย ที่ได้มารวมตัวกันหลังจากเลิกงาน คือ 3 ทุ่ม

และที่ขาดเสียมิได้ คือน้องโฆษิต ที่เป็นถึงภรรยาอุปฑูตฝรั่งเศษประจำไอซ์แลนด์ ที่ทำหน้าที่กำลังใจและออกความคิดเห็นต่างๆ

ส่วนเราน่ะ....พนักงานเม้าท์...ไม่ช่าย พนักงานพริ้นท์ภาพและแกะตัวหนังสือไง 555+


ในการเตรียมงานครั้งนี้ที่ได้พูดถึงข้างต้นคือน้องเตยที่ได้ร่วมจัดหาภาพผ่านทางอินเตอร์เนท

น้องได้ส่งภาพในหลวงมาให้เราได้คัดเลือกเยอะแยะมากมาย ซึ่งแม้จะไม่เคยได้เจอตัวเป็นๆ เลยสักครั้ง

แต่น้องสาวคนนี้ก็มีน้ำใจหยิบยื่นให้ตลอด ไม่ว่าต้องการความช่วยเหลือใดๆ .... พี่ละซึ้งน้ำใจน้องนะจ๊ะ...


ส่วนทีมงานที่ทำงานด้วยกันนั้นก็ใช้เวลาที่เหลือจากการทำงาน มาร่วมมือกันทำงานนี้ด้วยความมุ่งมั่น...

ว่า วันนี้เราทำเพื่อพ่อหลวงของแผ่นดินของเรา.....


การทำงานย่อมมีปัญหาและอุปสรรคมากมาย......

แต่ด้วยบารมีของพระองค์ท่าน ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปอย่างสวยงาม

แม้ว่าเบื้องหลังจะยุ่งยากและมีปัญหามากมาย

แต่เบื้องหน้าทีมงานก็ได้รับคำชมเชยอย่างมากมาย

.....เรา....พบเห็นข้อบกพร่อง

.....เรา....พบเห็นสิ่งที่ต้องแก้ไข

.....เรา....รับรู้ว่าบุคคลากรท่านใดเหมาะสมกับงานใด

.....และ....เราซึ้งในความร่วมมือของทุกๆ คน ที่ได้ร่วมมือกันในงานที่จัดขึ้นเพื่อ


...เทิดพระเกียรติพ่อหลวงของแผ่นดินของเรา.........


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

4.12.07

งานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา


เป็นอีกวันในรอบปีที่เราได้ทำงานอย่างภาคภูมิใจมากๆ

สำหรับวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงของเรา ....

นับตั้งแต่ประชุมวางแผนงาน วิ่งหาสถานที่ ขอความร่วมมือจากบุคคลและองค์กรต่างๆ

ไม่มีคำปฏิเสธใดๆ ด้วยคำพูดแค่ว่า....งานเฉลิมพระองค์ท่าน


เราเริ่มงานกันแต่เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม

ด้วยการเข้าไปจัดสถานที่ เตรียมเวที จัดบอร์ด

ทีมงานที่เราแบ่งงานกันอย่างดีเยี่ยมก็ทำงานแข่งกับเวลาที่กำลังไล่หลังเข้ามา

ในที่สุดเวลาเปิดงานก็มาถึง .....


สมาคม สถานกงสุลไทยประจำไอซ์แลนด์ วัดไทยไอซ์แลนด์ ได้เรียนเชิญท่านฑูตไทยประจำเดนมาร์ก

ได้มาเป็นประธานในการจัดงาน โดยท่านเป็นผู้กล่าวเปิดงาน ....

หลังจากนั้นเราก็เข้าสู่การแสดงต่างๆ

ซึ่ง สิ่งที่ภาคภูมิใจของเราในครั้งนี้ก็คือ ...

การได้อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ แสงเทียน และ ยามเย็น...

แต่ที่อัศจรรย์และทำให้เราปลื้มปิติก็คือ ก่อนหน้านี้ เรามีอากาศเจ็บคอและเสียงแห้ง

จากการอดนอน และฝีกร้องเพลง แต่..........

ณ. เวลาที่อัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ อาการเหล่านั้นกลับไม่มีเหลือ

เราสามารถใช้พลังในการออกเสียงและหลบเสียงได้อย่างเหลือเชื่อ

ซึ่งแม้แต่ลูกชายที่ได้เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ก็ยังอัศจรรย์ใจ....ปิติใจจริงๆ


และงานนี้ปิดท้ายด้วยบทเพลง ลูกของพ่อ และ พ่อแห่งแผ่นดิน

ซึ่งท่านฑูตชัยศิริ ได้ขึ้นมาร่วมขับร้องร่วมกัน เป็นที่ปลื้มใจแก่เรา และทุกคนเป็นอย่างยิ่ง


เราได้แต่หวังอยู่ในส่วนลึกของจิตใจว่า..........

เราคงได้มีโอกาสเข้าร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดไป


เพราะ...นี่คือ..สิ่งเดียวที่เราจะได้ตอบแทนคุณแผ่นดิน และโลกใบที่สวยงามใบนี้....


27.11.07

เกาะแก้วพิศดาร




อยากรู้ใช่ไม๊ล่ะว่ามันอยู่ที่ไหน....
เกาะแก้วพิศดารของเรามันก็แค่เกาะเล็กๆ อยู่แถบขั้วโลกเหนือ ...

คือเกาะไอซ์แลนด์...ดินแดนของความมหัศจรรย์
มันมหัศจรรย์อย่างไรรึ (แหม...ใช้สำนวนโบราณเชียว)








อย่างแรก...มันเกี่ยวอยู่กับเส้นรุ้งที่ 66 องศาเหนือ (เค้าเรียกแบบนี้หรือเปล่า)
อันนี้ต้องลองเปิดแผนที่โลกดูเอาแล้วกัน
แล้วคุณรู้ไหมว่านอกจากความเย็นสุดขั้วตามชื่อที่แปลว่า แผ่นดินน้ำแข็ง แล้ว
ในแผ่นดินเดียวกันบนเกาะนี้ มีสายน้ำร้อน และ สายลาวา พาดผ่านเต็มไปหมด
ความมหัศจรรย์ที่ได้รู้อีกประการหนึ่งคือ .......
ทุกหน้าร้อนจะมีนกชนิดนึงบินจากทวีปแอฟริกา มาวางสร้างลูกหลานที่แผ่นดินนี้...
ก่อนที่จะพากันอพยพกลับไปหลังจากลูกเด็กเล็กแดงปีกกล้าขาแข็งแล้ว
เห็นไม๊...มันสมควรเรียกเกาะแก้วพิศดารรึยัง 555+
ทีนี้มาฟังอรรถาธิบายต่อไปว่าที่บอกว่ามหัศจรรย์ตามที่บอกมาข้างต้นนั้นมันเป็นไง
เรื่องแรก...คุณๆ ลองเปิดแผนที่โลกดูเกาะเล็กๆ ระหว่างเกาะกรีนแลนด์ กับ ทวีปยุโรปดู
แล้วก็จะเห็นว่าเกาะนี้ห้อยอยู่กับเส้น 66 องศาเหนือจริงๆ
เกาะนี้นะรึ ..... ตามที่เคยอ่านแบบผ่านๆ ตา เค้าว่าเป็นเปลือกโลกใหม่...
เอาละสิ งงอะดิ... ได้คำว่าเปลือกโลกใหม่คือว่า......ลาวาที่เย็นลงและใหม่ที่สุดในโลกไง
อืม...อธิบายได้เจ๋งจิงๆ 5555+
ส่วนแผ่นดินน้ำแข็งที่ว่านี้ ทำไมมันไม่หนาวเย็นอย่างที่น่าจะเป็นน่ะรึ
มาจาบอกให้ฟัง....
เคยได้ยินมั้ย....น้ำแข็งพันปี..... ก็ภูเขาที่มีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตลอดปีไง
ที่ไอซ์แลนด์มีภูเขาน้ำแข้งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (ขอเน้นว่ายุโรป)
แต่เชื่อไม๊ว่าในขณะที่ส่วนปกคลุมด้านบนเป็นน้ำแข็ง แต่ใต้แผ่นดินลึกลงไป
.....มันคือความร้อน....
ใต้เกาะไอซ์แลนด์มีสายลาวาพาดผ่านเกือบทั่วเกาะ และมีสายน้ำร้อนเต็มไปหมด
สถานที่บ่งบอกถึงความร้อนใต้ภิพบนี้ ก็คือ บลูลากูน (blue lagoon) อันเลื่องชื่อ
และน้ำพุร้อน กีเซอร์ ที่พุ่งสูงถึง 22 เมตร
เห็นความมหัศจรรย์หรือยัง และนอกจากนี้ก็ยังมีบ่อโคลนเดือดอยู่ทั่วไปในหลายๆ พื้นที่ของเกาะ
ในทุกๆ หน้าร้อน เราจะเห็นนกชนิดนึงตัวเล็กๆ อพยพมาจากทวีปแอฟริกา
ซึ่งคนไอซ์แลนด์จะเรียกนกชนิดนี้ว่า ครีย่า นกเหล่านี้จะมาวางไข่ ฟัก และเลี้ยงดู
พอเหล่าลูกน้อยปีกกล้าขาแข็ง ก็จะพากันบินข้ามน้ำไปสู่แหล่งอาหารของพวกเขาต่อไป
นี่ก็เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเกาะแก้วพิศดารในความคิดของเรา
....วันข้างหน้าเราจะมาเล่าเรื่องเกาะเล็กๆ ผืนนี้ให้ฟังกันอีกเนอะ....

เปิดบล๊อค

หลังจากแอบอ่านของชาวบ้านมาก็เนิ่นนาน กิเสลมันก็เพิ่มพูน แต่ความฉลาดน้อยก็ทำให้ได้แต่แอบอ่าน แต่คนเราอะนะ มันก็ต้องมีพัฒนาการบ้าง หลังจากที่แอบสอดแนมชาวบ้าน ถามไถ่เพื่อนฝูง ก็ได้คำแนะนำว่าคนอย่างพี่น่ะ มันต้องมีบล๊อคไว้ระบายความเหงา 555+ ไม่น่าเชื่อนะว่าเราก็เหงาเป็น เหงาที่ว่านี้คือหาคนฟังไม่ได้ไง เนื่องจากคุณเธอช่างเล่าช่างจดจำ แต่ต้องมีที่ระบาย...และที่ระบายคือเพื่อนฝูง พี่ๆ น้องๆ จนทุกคนก็ต่างลงความเห็นกันว่า อย่ากระนั้นเลย เราแนะนำให้มันมีบล๊อคเป็นที่ระบายสิ่งที่มันต้องการจะบอกๆๆๆๆ เล่าๆๆๆๆๆ ให้พ้นจากตัวมันกันเหอะ ทั้งหลายเหล่านี้คือเหตุผลที่เราต้องมานั่งจิ้มดีด...นั่นก็คือไม่มีคนอยากจะนั่งฟังเราพล่ามอีกต่อไป 555+ และนี่คือความสามารถพี่เพิ่มขึ้นอีกอย่างนึงของเรา และต่อไปเราก็คงไม่ต้องไปตามคนโน้น ตามคนนี้มานั่งฟังเราอีกแระ
ก็ไม่รู้ว่าการมีบล๊อคเป็นของตัวเองจะทำให้เราได้เล่านิทานได้อีกนานแค่ไหน ยังไงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็มาให้กำลังใจกันหน่อยนะ เผื่อจะได้อ่านสำบัดสำนวนที่น่ารักของคุณชิดคนนี้นะจ๊ะ