30.4.08

กีฬาเยาวชนไทยมาเยือนไอซ์แลนด์

เมื่อซัมเมอร์ปี 2007 ชาวไทยในไอซ์แลนด์เรามีโอกาสได้เฮฮากับการเชียร์กีฬาระดับประเทศกันเชียว
โดยเราได้รับการติดต่อจากท่านมหาประสิทธิ์ เจ้าอาวาสวัดไทยในไอซ์แลนด์ให้จัดการต้อนรับคณะนักกีฬาจากประเทศไทย...อะฮ้า...
โดยการควบคุมของ กทม. มีคุณปราณี และ อ.ยิ่งศํกดิ์ เป็นผู้ควบคุมทีมในครั้งนี้
แต่เนื่องจากมีเวลากระชั้นชิดมาก เพราะรู้ล่วงหน้าแค่วันเดียว เราก็ต่อสายหาสมัครพรรคพวก
และแล้ว...การเชียร์กีฬาเยาวชน นานาชาติ ก็เกิดขึ้น...555+
กีฬาที่ส่งเข้าประกวด เอ้ย เข้าแข่งขัน ของไทยเราก็มี กอล์ฟ ..
อันนี้ต้องยอมรับนักกอล์ฟตัวจิ๋วของเราเชียวนะ...
เพราะเมื่อไปยืนเทียบกับฝรั่งแล้ว เหมือน ช้าง กะ มด เลย 5555+
ประเภทต่อไปก็...ว่ายน้ำ แบตมินตัน กรีฑา
สู้เค้า ...เด็กๆ...



ร่วมถ่ายภาพกับทีมกีฬาว่ายน้ำ และโค้ชที่น่ารัก บวกกับกองเชียร์ที่ส่งเสียงกันอย่างลืมอายุ และทุกคนก็ทิ้งขว้างการงานมาเชียร์กันอย่างไม่ให้เสียชื่อจริงๆ (นี่ถ้ามีแข่งขันกองเชียร์..เราต้องได้รางวัลแหงๆ 55)


ป้าขอถ่ายภาพกับคนเก่งหน่อยนะจ๊ะ...ไม่เสียแรงเชียร์จริงๆ คว้าเหรียญทองเชียวนะคนนี้อ่ะ...



นี่ต้องบำรุงกันซะหน่อย...ว่าแล้วพลังข้าวผัดกุ้งก็ทำให้เหรียญทองแบตมินตันทั้ง 6 เหรียญเป็นของประเทศไทย..555+ เก่งจริงลูก..




อันนี้ประเภทหญิงคู่ค่ะ ขอบอกตลอดการเชียร์คนแก่หัวใจจะวาย เพราะว่างเว้นจากการเชียร์กีฬามา..นานนนนนนนนนนนนนนนนนน มากกกกกกกกกกกกก 555+




อ.ยิ่งศักดิ์ ผู้ควบคุมนักกีฬา และโค้ชหนุ่มของทีมแบตมินตัน...ส่วนด้านหลังเป็นภริยาท่านฑูตไทยประจำเดนมาร์ก คุณมุข ซึ่งได้เดินทางมาร่วมเชียร์นักกีฬาในครั้งนี้ด้วย ประทับใจจริงๆ นะคะ...



นี่จ้ะ โฉมหน้าทีมกอล์ฟเยาวชนไทย...เล็กพริกขี้หนูจริงๆ



หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการแข่งขัน เราก็ได้เลี้ยงส่งเด็กๆ และคณะ ที่ร่วมกันสร้างชือในด้านกีฬาให้โลกรับรู้ถึงความเป็นไทยของเรา
และท่านกงสุลกิตติมศักดิ์ของไทยประจำไอซ์แลนด์ก็ได้แลกเปลี่ยนของที่ระลึกกับหัวหน้าคณะ..คุณปราณี แห่ง กทม.



ก่อนจากกันไกด์ที่น่ารักอย่างเราก็พาเด็กๆ ชมเมือง Reykjavík พาขึ้นหอของโบสถ์ใหญ่เพื่อชมทัศนียภาพของเมืองโดยรอบ เยี่ยมชมและถ่ายภาพบ้านผีสิง...หวังว่าน้องๆ คงชอบกันนะจ๊ะ...อ้อ....ความสำเร็จครั้งนี้ อ.ยิ่งศักดิ์ได้หว่านคารมให้เราได้ชื่นใจว่า ประทับใจกับการต้อนรับและกองเชียร์ชนิดที่ว่าไปมาหลายประเทศแต่ไม่เคยเจอที่ไหนเหมือนที่นี่มาก่อน น่ารักจริงๆ...ส่วนรางวัลกับการเชียร์ครั้งนี้ก็มากที่สุดสำหรับการทัวร์ต่างประเทศ เพราะไทยเราได้เป็นเจ้าเหรียญทอง โดยคว้ามาได้ถึง 11 เหรียญทองเชียวนะ..จะบอกให้...

20.4.08

ภาพถ่ายในความทรงจำ

เสียงของความเงียบ.........
มันเป็นยังไงนะ...เคยสงสัยกับมันเมื่อได้อ่านเจอคำๆ นี้
แต่ ณ วันนี้..เราเข้าใจได้ดี..
มันทำให้เรานั่งดูภาพในอดีตได้จากความทรงจำ
ใช่...คุณจะเห็นมันเมื่อคุณอยู่ในเสียงของความเงียบ..
แปลกนะ..เมื่อได้อ่านได้ยินคนพูดว่า คนที่พูดถึงอดึต
คนที่นั่งนึกถึงอดีตคือ คนแก่...เรายังไม่แก่นะเนี่ย...
อดีต..เป็นสิ่งที่น่าจดจำ..
อดึต..เป็นสิ่งที่น่าคิดถึง
อดีต..เป็นสิ่งที่น่าบอกเล่า
อย่างน้อย..การมีอดีต..นั่นหมายความว่า คุณมีความทรงจำ..ไม่ว่าดีหรือร้าย
อดีต..จะสอนตัวคุณได้สำหรับ..อนาคต..
แล้วอดีต..มาเกี่ยวอะไรกับ ภาพถ่ายแห่งความทรงจำ..
ก็ภาพถ่ายเหล่านั้นมันคืออดีต...5555+ อ่านแล้ว งง หรือว่า ไม่งง
มาดูภาพถ่ายในความทรงจำของเราดีกว่า...
บ้าน..บ้าน 2 ชั้นปลูกด้วยไม้ ดูใหญ่โตเมื่อเทียบกับความเล็กกระจ้อยร่อยของตัวเรา
การถูบ้าน..คือสิ่งเดียวที่แม่มอบหน้าที่ให้..แต่มันช่างยิ่งใหญ่สำหรับเราเสียเหลือเกิน
ทุกวันกับภาระหน้าที่นี้หลังจากกลับจากโรงเรียน.."ต้องถูบ้าน"
ต้องใช้คำว่าถู มือกระจ้อยร่อย 2 มือวางไปบนผ้า โก่งตูด เอ้ย ก้นขึ้นเล็กน้อย ..
ซอยเท้าถึ่ๆ เข็นเจ้าผ้าบนไม้กระดานจากมุมนึง ไปสู่อีกมุมนึง คือการถูบ้านของเรา..
แต่หลังจากภาระกิจนี้เสร็จสิ้นลง เราก็ได้นอนกลิ้งเกลือกกับเจ้าไม้กระดานเย็นๆ เพื่อ..
ทำการบ้าน ดูทีวี ซึ่งบางครั้งก็หลับไปกับเจ้าไม้กระดานเย็นๆ ที่เราเฝ้าแต่ขี้เกียจทำความสะอาดมัน..
พ่อ..พ่อคือต้นไม้ที่อยู่ในบ้าน ร่มเงาของพ่อช่างยิ่งใหญ่นัก
ทุกครั้งที่คิดถึง พ่อ..ไม่เคยใช้คำว่า คุณ ข้างหน้า ไม่เคยมีคำว่า จ๊ะ จ๋า คะ ขา หลังคำว่า พ่อ
เราเรียกพ่อ ว่า พ่อ เพราะว่า มันไพเราะกับหางเสียงที่เราเรียก..
พ่อบอกเราอย่างนั้น..พ่อ บอกว่า ตอนแม่แกท้อง พ่ออยากได้ลูกชาย ..
เพราะ 3 คนที่ได้ก่อนหน้านั้น เป็นผู้หญิงล้วน..แต่แม้จะผิดหวังเล็กน้อยในตอนนั้น
แต่..พ่อบอกว่าตอนนี้พ่อไม่เคยเสียใจ..
เราเป็นลูกคนเดียวที่นั่งดูทีวีกับพ่อยามดึก ไม่ว่าพ่อจะดูมวย..
ดูฟุตบอล..หรือ ดูอะไรในทีวี เราจะดูกับพ่อเสมอ..
คำหยาบคายไม่เคยหลุดจากปากพ่อให้ได้ยิน ไม่เคยเห็นพ่อทะเลาะกับแม่
แม้ว่าจะได้ยินเสียงแม่บ่นพ่อก็ตาม 55+ แล้วที่ประทับใจคือ..
พ่อไม่ชอบให้แม่ตีลูก...อิอิ อันนี้ถูกใจสุดๆ...
แม่..แม่จ๋า..เราชอบนอนกอดแม่..เนื้อแม่เย็นน่าเบียด
อกแม่แม้จะเหี่ยวๆ แต่เราก็ชอบจับ 55+ ก็มันนิ่มมือ
แม่ดู แม่ชอบตี แต่ไม่ยักเห็นจะกลัว...แม่มีฉายาให้เราเยอะ
นังม้าดีดกระโหลก ..ฮ่าๆๆๆ ทำไมม้าต้องดีดกระโหลกล่ะแม่..มันสงสัยเนอะ
ลูกนังช่างซัก..แม่จ๋า..แม่ชอบซักผ้าเหรอ..
เออ..กรรม ..ชั้นได้ลูกใครมาเลี้ยงเนี่ย..ทำไมมันช่างพูดอย่างนี้หว่า..
อ้าวววว ตกลง ชิดไม่ใช่ลูกแม่หรอ..ลงท้าย..แม่ก็จะพูดว่า นังลูกชิด หยุดดดดด
เราก็จะเผ่นจากแม่แทบไม่ทัน เพราะนั่นหมายถึงไม้เรียวที่อยู่ในมือแม่ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
พี่ติ๋ว..พี่สาวคนโต..ตั้งแต่จำความได้ ภาพของพี่ติ๋ว คือแม่อีกคน
พี่ติ๋วต้องทำทุกอย่างแทนแม่ในบ้าน ไม่ว่า ซักผ้าให้ทุกคน รีดผ้า ทำกับข้าว
เฮ้อ..น่าเหนื่อยแทนพี่ติ๋วจริงๆ กลับจากโรงเรียนก็พร้อมๆ กัน แต่พี่ติ๋วเอาเวลา..
ทั้งหมดๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปกับทุกคนในบ้าน
เวลานั่งนึกถึงพี่สาวทีไร ทำไมมองอะไรไม่ค่อยชัดก็ไม่รู้..
มันเหมือนมีอะไรมาเบลอๆ อยู่ในลูกกะตาเราอ่ะ..หลังจากนั้นมันก็รินมาสู่แก้มเรา..
หลังจากนั้น..เราก็ยิ้มให้กับภาพ..พี่ติ๋ว..ที่เราเห็นชัดเจนอยู่ตรงหน้า..
พี่ต๋อย..พี่คนที่ 3 เราไม่รู้จักคนที่ 2 ไม่เคยเห็นแม่แต่ภาพถ่าย..
มีเพียงเรื่องราวที่แม่เล่าให้ฟังว่าเราไม่รู้จักพี่คนนี้ตั้งแต่เรายังไม่เกิด
ก็เค้าเสียชีวิตเมื่อมีอายุได้แค่ ขวบกว่าๆ..
พี่ต๋อยจึงกลายเป็นลูกคนกลางของสามใบเถา...
พี่ต๋อยสวยที่สุดในบ้าน..เพราะเค้าขาว..เหมือนแม่
ภาพของพี่ต๋อย..คือภาพของกุลสตรีไทย..นั่งปักตาลปัตร.ช่วยแม่
ยามเรียนที่ต้องมีงานฝีมือ เย็บปัก ถักร้อย..พี่ต๋อยคือที่พึ่ง..555+
ก็มันไม่ชอบอ่ะ ทำก็ยาก สวยก็ไม่สวย ให้พี่ต๋อยทำให้ดีกว่า ..
แล้วไปเนียนส่งครู..แต่..คุณครูขา..ทำไมคุณครูรู้ล่ะว่าพี่สาวหนูทำ..ฮ่าๆๆๆ
ครอบครัวเรามีกันแค่นี้..แต่ไม่หมด..แค่นี้..เพราะมันยิ่งใหญ่กว่านี้น่ะซิ
ภาพในความทรงจำเรามีมากกว่านี้เยอะ....
น้าดา..น้องสาวของแม่..น้าดาคือคนใจดีที่สุดในโลก
น้าดาสอนเราเยอะ น้าดาพาเราไปที่ทำงาน น้าดาพาเราไปเที่ยว
น้าดาซื้อของให้เรา ไม่ว่าจะเป็นขนม ของเล่น เสื้อผ้า..
พูดได้ว่า..น้าดาคือแม่อีกคนนึงของเราเลยแหละ..น้าดาขา..คือชิดขอ..
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเราก็จะได้ทุกอย่างมาครอบครอง..
คุณน้า..คุณน้าคือแม่ของแม่ ที่เรียกว่ายาย..แล้วทำไมเราเรียกคุณน้าล่ะ..
อันนี้เรามารู้เมื่อโตแล้ว ก็ไอ้ความที่ช่างซักช่างถามก็เลยได้ประวัติอันยาวนานของ
ครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงเลยทีเดียว
คุณตาเป็นข้าราชการตำรวจ คุณแม่ เป็นภรรยาคนที่หนึ่ง
คุณน้า เป็นภรรยาคนที่ 2 และน้าละออ คือภรรยาคนที่ 3
ทั้ง 3 ภรรยาเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน อิอิ..อย่างนี้เค้าเรียกพระยาเทครัวหรือเปล่าเนี่ย
และทั้ง 3 ภรรยาก็มีลูกๆ เป็นของตัวเอง..และคำที่เรียกทั้งหมดก็คือ..
คำที่ลูกๆ ทุกคนต้องเรียก แล้วก็ตกทอดมาถึงหลานๆ อย่างเรา..
เราไม่รู้จักน้าละออ เพราะเสียชีวิตตั้งแต่เรายังไม่เกิด
คุณแม่เสียชีวิตเมื่อเรายังเด็กมาก แต่ภาพของคุณแม่ก็ยังอยู่ในความทรงจำของเราเสมอ
ยังจำได้ถึงพิธีศพที่บ้าน การกวาดถูบ้านใหญ่..บ้านทรงโบราณในบริเวณเดียวกัน
ใต้ถุนสูง หลังใหญ่ๆ เพราะลูกๆ เยอะ..แล้วมีศพคุณแม่อยู่ในโลงบนบ้านใหญ่..
บรื้อสสสสสสส์
เรามีทั้งคุณลุง คุณป้า และน้าๆ ทั้งหลาย รวมทั้งพี่ๆ น้องๆ เคยนับรวมกันสมัยที่เรายังเด็ก
รวมกันถึง 55 คน แล้วปัจจุบันล่ะ ไม่มากขึ้นหรอก มีแต่น้อยลง ..
เพราะแยกย้ายกันออกไปสู่วัฒนธรรมใหม่ๆ ที่เป็นครอบครัวเดี่ยว ยังคงเหลืออยู่บ้าง..

ซึ่งมันก็ทำให้ภาพแห่งความทรงจำของเรายังคงมีอยู่ ณ บ้านบุคคโล
บ้านที่ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ จนปัจจุบัน บ้านถึงแม้จะเปลี่ยนรูปร่างไปบ้าง
แต่ภาพถ่ายที่อยู่ในความทรงจำ..มันจะยังเป็นภาพที่เห็นทีไร ...
เราก็ยังยิ้มกับภาพเหล่านั้นได้ตลอดเวลา...
ใครจะมีภาพแห่งความทรงจำไว้เล่าให้ลูกหลานที่ช่างซักช่างถามบ้างนะ...